วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

ปิดตำนาน SLR อย่างงดงามกับ SLR Stirling Moss



ชื่อของ SLR นั้นแปลเป็นภาษาเยอรมันได้ว่า "Sport, Leicht, Rennsport" หรือ สปอร์ต น้ำหนักเบา สำหรับการแข่งขัน จากค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในยุค 50 ในฐานะรถแข่งทางเรียบชั้นเลิศ และได้กลายเป็นหนึ่งในชื่อที่ขลังที่สุดชื่อหนึ่งในวงการรถยนต์สมรรถนะสูงด้วยการสร้างตำนานชัยชนะมากมายหลายรายการ การกลับมาหรือจากไปของชื่อนี้ในแต่ละครั้งนั้นสร้างเสียงฮือฮาให้กับนักเลงรถเสมอมา และครั้งนี้ก็เช่นกัน หลังจากที่ได้รื้อฟื้นจิตวิญญานของ SLR ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในปี 2003 อันเป็นผลงานร่วมกันระหว่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ กับผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถแข่งสมรรถนะสูงจากสหราชอาณาจักรอย่าง แมคลาเรน (McLaren) ทำให้ SLR นั้นเป็นหนึ่งในสุดยอดรถยนต์สปอร์ตตลอดกาล ด้วยรูปทรงแบบรถ GT สองที่นั่ง ที่มีการวางเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยเครื่องยนต์วางกลางแบบค่อนไปทางด้านล้อหน้าทำให้ SLR นั้นมีกระจังหน้าที่ยาวกว่ารถทั่วๆไปมาก (เครื่องยนต์ของ SLR นั้นถอยออกมาจากกันชนหน้าเกือบหนึ่งเมตร! อันต่างจากรถเครื่องวางกลางคันอื่นๆที่มักจะวางค่อนไปทางล้อหลัง) และยังโดดเด่นด้วยประตูแบบปีกแมลงทับ (ต่างจากรุ่นต้นตำรับจากยุค 1950 ที่เป็นแบบปีกนกนางนวล) ผสานเข้ากับแนวทางที่ได้รับอิทธิพลมาจากจมูกของรถแข่งฟอร์มิวล่า วัน (ที่สุดท้ายได้ส่งผลมาถึงแนวทางการออกแบบของรถรุ่น SLK อีกด้วย) รวมกับสมรรถนะการขับเคลื่อนที่ไม่เป็นรองใครบนพื้นปฐพีนี้ด้วยเครื่องยนต์ 8 สูบ ซุปเปอร์ชาจน์ ที่ให้กำลังได้เกิน 620 แรงม้า กับตัวถังคาร์บอนด์ไฟเบอร์ทั้งคัน นับจนถึงวันนี้ SLR ได้หลุดออกมาจากสายการผลิตแบบ ลิมิเต็ด เอดิชั่น (limited edition) จำนวนเพียง 3500 คัน ได้กำลังจะปิดฉากลง

การอำลาของวีรบุรุษในตำนานคงจะไม่สมบูรณ์หากเขาเดินจากไปแบบเงียบๆ ดังนั้นหลังจากที่ได้ประกาศการจบสายการผลิตของ SLR ในเดือนเมษายน ปี 2008 นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ตัดสินใจสร้างบทส่งท้ายที่สง่างามให้กับ SLR ด้วยการสร้างรุ่นพิเศษขึ้นมาอีก 75 คัน ด้วยสนนราคาราวๆ 750000 ยูโร หรือกว่า 35 ล้านบาท (หากท่านเศรษฐีไทยสนใจ ก็ต้องจ่ายค่าตัวราวๆกว่า 100 ล้านบาททีเดียว) นั่นก็คือ SLR รุ่น Stirling Moss ( สเตอร์ลิง มอส)

หากชื่อของ SLR นั้นเป็นตำนาน ชื่อของ สเตอร์ลิง มอส นักแข่งชาวอังกฤษเองก็เป็นชื่อของผู้สร้างตำนานที่ยากจะลบได้ให้กับ SLR เช่นกัน เขาคือสุดยอดนักแข่งรถยนต์ในตำนาน ผู้นำรถ SLR คว้าชัยและสร้างสถิติที่ยากจะหาใครมาลบได้ในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ (ที่ไม่ค่อยจะเรียบนัก)ข้ามประเทศในระยะทางกว่า 1000 ไมล์ที่แสนทรหดในปี 1955 ภายใต้ชื่อการแข่งขันว่า Mille Miglia ( มิเล มิเกลีย ในภาษาอิตาเลียนแปลว่า 1000 ไมล์) ด้วยการทำความเร็วเฉลี่ยได้สูงกว่า 157.65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนถนนธรรมดา ในระยะทางกว่า 1600 กิโลเมตร

รถรุ่นส่งท้ายนี้ สร้างขึ้นมาด้วยการผสมผสานคุณค่าทางประวัติศาสตร์ด้วยแรงบันดาลใจจากรถแข่ง SLR รุ่นปี 1955 เบอร์ 722 ของ สเตอร์ลิง มอส เข้ากับความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์ และวัสดุชั้นสูงคัดเกรดที่เหนือชั้นยิ่งกว่าSLR รุ่นปัจจุบันได้อย่างลงตัวในทุกๆมิติ และด้วยกำลังกว่า 650 แรงม้าการเป็นรถสปอร์ตชนิดไร้หลังคา มีเพียงแผ่นสะท้อนลมเล็กๆเท่านั้น (ผู้ขับต้องสวมแว่นกันลมพร้อมหมวกกันน้อคหนัง) สิ่งนี้ได้ให้อรรถรสของความเร็วอย่างถึงแก่นที่สุดซึ่งสงวนไว้สำหรับนักขับระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยมจริงๆเท่านั้น

เพียงแค่มองเห็นภาพก็เห็นได้ถึงความน่ายำเกรงของ SLR Stirling Moss คันนี้ได้อย่างชัดเจนในทุกๆมุมมอง สมกับการเป็น 75 คันสุดท้ายของ ตำนาน SLR ของยุค 2000 พร้อมปิดตำนานลงได้อย่างสง่างาม และสมศักดิ์ศรีอย่างยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น: