วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

ฝันสลาย ภาค 2

สวัสดีวันอาทิตย์อีกครั้งหนึ่งครับท่านผู้ที่รักที่ทุกท่าน สัปดาห์นี้มีกิจกรรมหนึ่งที่ผมรอคอยมานานงานหนึ่ง นั่นก็คืองานแสดงรถยนต์โบราณที่สยามพารากอน ถ้าไม่ติดงานอะไรก็คงจะต้องไม่พลาดแน่ๆ และสำหรับท่านผู้อ่านที่ชื่นชอบรถยนต์ประวัติศาสตร์ หรือท่านที่อยากปลูกผังจิตวิญญานแห่งการอนุรักษ์มรดกยานยนต์ให้กับลูกหลาน ผมขอเชิญชวนไปใช้เวลาว่างวันอาทิตย์ร่วมกันกับมหกรรมรถโบราณครั้งนี้นะครับ

ตามที่สัญญากันจากสัปดาห์ที่แล้วนะครับ ผมขอนำเรื่องราวความฝันสลายครั้งยิ่งใหญ่ในวงการรถยนต์ของ De Lorean DMC-12 พระเอกจากภาพยนตร์ Back To The Future มาเล่าต่อนะครับ

การเกิดขึ้นของ DMC-12 ในช่วงต้นของยุค 80 นั้นเป็นแผนการอันทะเยอทะยาน ของ นาย จอห์น เดอ ลอรีน นักลงทุนชาวอเมริกันในการที่จะสร้างรถยนต์ในประเทศไอร์แลนด์ และส่งไปขายในสหรัฐอเมริกา ผสมผสานองค์ประกอบอันสุดยอดต่างๆเข้าด้วยกัน เริ่มต้นด้วยการว่าจ้าง สำนักออกแบบอิตัลดีไซน์ เจ้าของผลงานดังๆมากมาย ผู้นำเสนอแนวคิดประตูปีกนกนางนวล และผิวสเตนเลสสตีลปัดลายเสี้ยนที่สวยแบบไม่ต้องพ่นสี (แถมยังมีรุ่นพิเศษที่เป็นตัวถังชุบทอง 24K อีก สามคันด้วย!!) ประสานเข้ากับแชสซีย์ แบบ แบคโบนไฟเบอร์กลาสน้ำหนักเบา ซึ่งออกแบบโดย มร. คอลิน แชปแมน ผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์สปอร์ต ชื่อก้องอย่าง โลตัส ส่วนเครื่องยนต์นั้นเป็นแบบ วางท้ายที่มีอาการท้ายไว แบบปอร์เช่ 911 ที่เริ่มแรกมีความคิดที่จะใช้เครื่องยนต์ โรตารี่ น้ำหนักเบาของค่ายซีตรอง (แปลกแต่จริง ที่ค่ายฝรั่งเศสเคยทำเครื่องโรตารี่!!!) แต่ก็หันมาเป็นเครื่องยนต์ v6 จากค่าย PRV ( สหกรณ์เครื่องยนต์ระหว่าง เปอร์โยต์, เรอโนลต์, วอลโว่) ด้วยเหตุผลที่ว่าเครื่องโรตารี่มันซดน้ำมันหนักเกินไป แต่ความฝันต้องมาสลายไปเพราะความยุ่งยากมากมายไม่ว่า ค่าแรงการผลิตและ ปัญหาสหภาพแรงงานในไอร์แลนด์ รวมถึงคุณภาพที่ไม่คงที่ การส่งมอบไม่ทันตามกำหนด ราคาที่สูง และสมรรถนะที่ต่ำ ทำให้บริษัทเจ๊งไม่เป็นท่า ในปี 1983 หลังจากดำเนินการมาได้เพียง 2ปีเท่านั้น ผลักดันเจ้าของบริษัทต้องไปค้ายาเสพติดหาเงินมาใช้หนี้กลุ่มเงินทุนนอกระบบจากหนี้มหาศาลของโรงงาน

อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีการนำเอา DMC-12 กลับมาสร้างกันใหม่ ด้วยอะไหล่เก่าเก็บจากโรงงานเดิม แต่ปรับปรุงเครื่องยนต์กลไกให้ทันสมัยขึ้น ในจำนวนราวๆ 20 คันต่อปี ด้วยสนนราคาราวๆ ไม่เกินสองล้านบาท (ในสหรัฐอเมริกา) นับว่าไม่แพงสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์บทที่แสนจะโลดโผนที่มีพระเอกชื่อ De Lorean DMC-12 นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น: