วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

อนาคตเพชรยอดมงกุฏเม็ดใหม่ของบีเอ็มดับเบิ้ลยู!






หากจะกล่าวถึงซีรี่ย์และรุ่นรถต่างๆของค่ายบีเอ็มดับเบิ้ลยูในปัจจุบัน พบว่ามีความหลากหลายและตอบโจทย์สำหรับตลาดรถระดับพรีเมี่ยมได้เกือบจะครบทุกเซ็คเม้นท์ (Segment) ของตลาด โดยเริ่มตั้งแต่รุ่นจิ๋วอย่าง มินิ คูเปอร์ ไปจนถึงรุ่นซีดานรุ่นสุดหรู 6 ดาว (ขอยืมดาวของคุณ อ้วนซ่ามาใช้ซักหน่อย) อย่าง โรลส์รอยซ์ แฟนธอม เรียกได้ว่าค่ายบีเอ็มดับเบิ้ลยูมีทุกสิ่งให้เลือกสรรค์

อ่ะ! ช้าก่อน ที่ว่าครบน่ะจริงหรือ? ใช่ครับหากท่านเป็นแฟนพันธ์แท้รถหรู ท่านจะตอบได้ทันทีว่า บีเอ็มดับเบิ้ลยู ไม่มีรถซุปเปอร์คาร์ ไว้เทียบรุ่นกับค่ายอื่นๆเขาครับ โดยซุปเปอร์คาร์คันสุดท้ายของบีเอ็มดับเบิ้ลยูก็คือรุ่น เอ็มวัน (M1) ซึ่งเลิกทำรถแบบนี้ไปนานกว่า 30 ปี ส่วนที่เหลือก็เป็นรถยนต์ตระกูล เอ็ม ต่างๆของบีเอ็มดับเบิ้ลยูที่นำเอารถเก๋งรุ่นต่างๆมาปรับปรุงจนมีสมถรรนะสูงล้ำขั้นเทพ แต่แม้จะเจ๋งในแง่การขับขี่แต่รถรุ่น เอ็ม ก็ยังขาด อิมเมจ ของซุปเปอร์คาร์แท้ๆ ทำให้บีเอ็มดับเบิ้ลยูต้องนั่งคิดเรื่องนี้อยู่นานสองนาน ถึงการหวนกลับมาสร้างซุปเปอร์คาร์เพื่อเสริมบารมีในฐานะเพชรยอดมงกุฏของบริษัท

หากท่านยังจำภาพของเจ้าปีศาจสีส้ม เอ็มวัน โฮมเมจ (M1 Homage) ที่แอบจอดหลบมุมอยู่ในบูธของบีเอ็มดับเบิ้ลยูในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาได้ นั่นก็เป็นภาพแรกของซุปเปอร์คาร์จากค่ายใบพัดฟ้าขาว ซึ่งการพบกันครั้งแรกพบว่ารถคันนั้นมีบุคลิกภาพหน้าตา โหด หล่อ เท่ห์สมกับเป็นซุปเปอร์คาร์ทุกประการ จะติดอยู่ตรงที่รายละเอียดของเส้นสายที่ “เว่อร์” หรือที่ฝรั่งเค้าเรียกว่า “ดรามาติค” (Dramatic) แบบรถโชว์ไปนิด แต่ภายในปีเดียว บีเอ็มดับเบิ้ลยูก็ได้ออกเวอร์ชั่นยั่วน้ำลายออกมาให้เราได้ชม ภายใต้ชื่อ “วิชั่น เอฟฟิเชียนท์ไดนามิค คอนเซ็ปท์” (Vision EfficientDynamics Concept)

ความเว่อร์ของรายละเอียดในรถต้นแบบคันล่าสุดนี้ทำให้รุ่น เอ็มวัน โฮมเมจ ดูพับเพียบเรียบร้อยไปถนัดตา แถมยังเพียบด้วยรายละเอียดหวือหวาแบบรถโชว์ที่หากอ่านในรายละเอียดที่ทางบีเอ็มดับเบิ้ลยูจัดให้เรียกได้ว่าเยอะจัด อ่านกันมึน ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาอากาศพลศาสตร์มาใช้แบบถึงกึ๋น โดยรถคันนี้มีค่าต้านอากาศต่ำสุดๆเพียง 0.22 เท่านั้น หรือ จะเป็นเทคนิคการประกอบแบบใหม่ รวมไปถึงเทคโนโลยีการขับเคลื่อนแบบดีเซลไฮบริดพลังสูงที่ทำได้ทั้งแรงสุดๆ หรือจะประหยัดสุดๆก็ย่อมได้ (แต่ไม่ได้ทำได้พร้อมๆกันนะครับ) แถมด้วยของแปลกก็คือแม็ก 21 นิ้วที่จับคู่กับยางหน้าแคบพิเศษเพื่อลดแรงเสียดทาน แต่หากมองให้ลึกๆเราสามารถจะพบภาพของอนาคตของซุปเปอร์คาร์แนวคิดใหม่จากบีเอ็มดับเบิ้ลยูที่สืบทอดมาจาก เอ็มวัน โฮมเมจได้กระจ่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และนำไปสู่สิ่งที่สามารถที่จะเป็นจริงได้!

ภาพรวมก็คือ ซุปเปอร์คาร์เครื่องวางกลางลำขนาดสูสีกับ แลมโบกีนี่ เมอร์เซียลลาโก ที่เชื่อได้ว่า หากลองลบรายละเอียดหวือหวารุงรังออกไป นี่ก็คือ ซุปเปอร์คาร์ที่มีสัดส่วนสวยงามลงตัวที่สุดคันหนึ่ง เริ่มที่ใบหน้าอันหล่อเหลาคมคาย ไปจนถึงเอาท์ไลน์ด้านข้าง และรูปทรงของไฟท้ายรวมไปถึงรายละเอียดทางอากาศพลศาสตร์บางส่วน ที่เชื่อได้ว่าใกล้เคียงกับรถโปรดักชั่นมาก แถมด้วยทีเด็ดการเป็นรถสี่ที่นั่ง! ซึ่งไม่มีใครเหมือน (ในอดีตเคยมีรถแบบนี้เช่นกัน คือเฟอร์รารี่ มองดิอัล(Ferrari Mondial))

การกลับมาของซุปเปอร์คาร์จาก บีเอ็ทดับเบิ้ลยู ไม่ได้มาแบบธรรมดาๆ แต่อัดแน่นไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ จนอาจจะเรียกได้ว่านี่อาจจะเป็นเซ็กเม้นท์ใหม่ที่ผมอยากจะเรียกว่าเป็น “ซุปเปอร์กรันตูริสโม” (Super Gran Turismo) หรือลูกผสมระหว่างรถจีที กับซุปเปอร์คาร์เครื่องกลางลำ ผมแทบจะรอวันที่ บีเอ็มดับเบิ้ลยู วิชั่น เอฟฟิเชียนท์ไดนามิค คอนเซ็ปท์ ลอกคราบของคอนเซ็ปท์คาร์ ออกจนกลายเป็นรถยนต์จริงๆไม่ไหว เพราะการกลับมาหลังจาก 30 ปีของตำนานอย่าง เอ็มวัน นั้นมันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆสำหรับ บีเอ็มดับเบิ้ลยูแน่นอนครับ

1 ความคิดเห็น:

suckneed กล่าวว่า...

คาสิโนออนไลน์