วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

เท่ห์ได้ไม่ง้อน้ำมัน



สวัสดีท่านผู้อ่านที่รักนับเป็นเวลาพอสมควรและนะครับที่ได้โล่งใจใช้น้ำมันราคาสบายกระเป๋ากัน การที่ได้มีโอกาสใช้น้ำมันราคาถูกนั้น มิได้หมายความว่าเราจะไม่ต้องเตรียมตัวกับกับวิกฤตการณ์น้ำมันกันแล้วนะครับ ยังไงซะสักวันภาวะน้ำมันขาดแคลนจะต้องมาเยือนแน่ๆ ดังนั้นบริษัทรถยนต์ต่างๆต่างก็ทยอยนำเอารถยนต์ที่เตรียมพร้อมกับปัญหาพลังงานออกมานำเสนอกันอย่างไม่ขาดสายไม่ว่าจะจากยุโรป เอเซีย หรือแม้แต่อเมริกาแดนคาวบอยก็ตาม

และในสัปดาห์นี้ผมอยากจะขอนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากแดนคาวบอยที่ออกแบบและสร้างขึ้นด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ภายใต้แบรนด์ ฟิซเกอร์ (Fisker) ให้เป็นที่รู้จักกัน ฟิซเกอร์นี้เป็นผลงานการออกแบบของนาย เฮนรี่ ฟิซเกอร์ (Henry Fisker) นักออกแบบมือเก๋า

แบรนด์ฟิซเกอร์นี้แต่เดิมผลิตแต่รถยนต์ระดับหรูเท่านั้น โดยเริ่มต้นธุรกิจด้วยการผลิตรถยนต์สปอร์ตดัดแปลงที่มีพื้นฐานมาจากเบนซ์ เอสแอล และบีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรีย์ 6 และได้เริ่มต้นที่จะจริงจังกับการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นครั้งแรกด้วยการนำเสนอรถเก๋งสปอร์ตสี่ประตูที่มีนามกรว่า การ์มา (Fisker Karma) และล่าสุดก็คือ การ์มา เอส (Karma S) สปอร์ตเปิดประทุนที่พึงจะเปิดตัวสดๆร้อนไปต้นปีนี้เอง

ความเจ๋งของการ์มาทั้งสองรุ่นอยู่ที่ระบบที่เรียกว่าการเป็นรถที่สร้างด้วยโครงสร้างอลูมิเนียมน้ำหนักเบาบวกเข้ากับระบบ คิว ไดรพ์ (Q-DRIVE) อันเป็นระบบที่อาศัยเครื่องยนต์เบนซินขนาดสองลิตรทำงานเป็นเครื่องปั่นไฟเข้าไปเก็บไว้ยังแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน (Lithium Ion Battery)ซึ่งเก็บไว้กึ่งกลางของรถ และพร้อมที่จะปลดปล่อยกระแสส่งไปยังมอเตอร์ให้กำลังสูงเหลือเชื่อ 403 แรงม้าและขับเคลื่อนพุ่งทะยานออกไปด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 6 วินาทีเท่านั้น และยังทำความเร็วสูงสุดระดับ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย นอกจากนั้นหากต้องการการขับเคลื่อนแบบไร้ไอเสียสะอาดสุดๆ ก็สามารถดับเครื่องปั่นไฟและใช้ไฟจากแบตเตอรี่ล้วนๆก็ย่อมได้ ซึ่งพลังแบตเตอร์รี่ล้วนๆสามารถวิ่งไปได้ไกลถึง 80 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟบ้านหนึ่งคืน (ทางบริษัทอ้างว่า หากขับวนเวียนอยู่ในเส้นทางประจำและใช้ระบบอัดไฟด้วยไฟบ้านตลอด ในหนึ่งปีเติมน้ำมันแค่ครั้งเดียวก็พอเพียง)

จุดเด่นอีกประการหนึ่งของ ฟิซเกอร์ การ์มา และการ์มา เอส นั้นก็คือรูปทรงที่เป็นดั่งงานประติมากรรม ด้วยเส้นสายที่ลื่นไหลและเร้าอารมณ์ด้วยส่วนโค้งเว้าที่ไว้ลายนักออกแบบมือเก๋าอย่างมร.ฟิซเกอร์ ซึ่งเคยมือกับการออกแบบรถยนต์ระดับเอ็กโซติกราคาแพงระยับมาหลายๆต่อหลายรุ่น แต่ฟิซเกอร์เองก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร แค่ 3 ล้านกว่าๆเท่านั้น และตั้งเป้าหมายไว้ที่เศรษฐีที่ไม่ต้องการขับพอร์ช 997 หรือเบนซ์ ซีแอลเอส แต่ประสงค์ที่จะได้รถหรูที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม (น่าจะขายให้ดาราฮอลลีวู้ด หรือนักการเมืองอย่าง นาย อัล กอร์ ได้หลายคันทีเดียว)

จุดพิศดารแตกต่างจากรถคันอื่นอีกประการหนึ่งก็คือ การ์มานั้น ไม่มีท่อไอเสียด้านท้าย หลายๆท่านอาจงงว่า มีเครื่องยนต์เบนซิน ไหงไม่มีท่อไอเสีย ใช่ครับมีแน่ๆแต่ที่ท่านเห็นเป็นก้อนสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนด้านท้าย (เด็กๆสมัยนี้จะรู้จักไหมเนี่ย?)นั้นทำไว้หลอกๆ ท่อไอเสียตัวจริงนั้นออกทางช่องโครมเมี่ยมอยู่หลังล้อหน้าต่างหาก รู้แล้วอย่าเผลอไปพิงเข้าล่ะ เดี๋ยวโดนลวกน่องจะหาว่าไม่เตือน

ไม่มีความคิดเห็น: