วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

The Episode ONE


บทความนี้ไม่ได้เขียนด้วยนามปากกา อ้วนซ่า แต่ใช้ชื่อจริง ดังนั้นต้องทางการ และวิชาการนิดๆ


“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงเสียที” คงเป็นความคิดที่นายคริส แบงเกิ้ล นักออกแบบผู้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของ BMW ไปตลอดกาล และเป็นนักออกแบบที่มีคนกล่าวถึงมากที่สุดคนหนึ่งของโลก(ทั้งในแง่บวก และลบ)เช่นกัน อยากจะบอกกับทุกๆคน เมื่อเขาได้นำเสนอผลงานล่าสุดของเขา BMW GINA Light Visionary Model รถที่แนวคิดน่าทึ่งที่สุดคันหนึ่งเท่าที่เคยเห็นมา

ทำไมเขาถึงอยากจะกล่าวคำนี้ รถคันนี้คือตัวแทนของสิ่งที่เขาอธิบายมาตลอดเวลาเมื่อมีผู้ถามว่า รถรุ่น Z4 มีแนวคิดมาจากอะไร? นับตั้งแต่เมื่อมันออกวางจำหน่ายเมื่อปี 2002 (และผมก็เชื่อว่าเขาก็ยังโดนสื่อมวลชนถามอยู่จนถึงทุกวันนี้) ว่ากันตามจริงแล้ว แนวคิดของการสร้างรถคันนี้ได้กำเนิดมาพร้อมๆกับการเกิดขึ้นของ Z4 นั่นเอง แต่เพราะความไม่พร้อมของเทคโนโลยีและ การผลิตทำให้ต้องอาศัยเวลาถึง 6 ปีกว่าที่แนวคิดนี้จะพร้อมเปิดเผยต่อสายตาสาธารณชนได้ ปล่อยให้สื่อมวลชนต่างตีความไปต่างๆนานาและเรียกสิ่งนี้ว่า “Flame Surfacing”

อะไรคือ Flame Surfacing?

ในความหมายของ คริส แบงเกิ้ล เขาต้องการอธิบายถึงแรงบันดาลใจที่เกิดจากรูปแกะสลักกรีก ที่ช่างแกะสลักสามารถปลดปล่อยวิญญานที่สิงสถิตอยู่ในหินก้อนหนึ่งๆออกมาได้ ประหนึ่งว่า มีร่างกายและจิตใจขององค์เทพซุกซ่อนรอวันปลดปล่อยอยู่ในก้อนหินอ่อนก้อนนั้น ด้วยภาพของอาภรณ์อันพริ้วไหวที่มองประหนึ่งมีกล้ามเนื้อดันอยู่ภายใต้ผ้านั้นของเหล่ารูปสลัก ภาพเหล่านั้นสร้างแรงบันดาลใจให้กับเขาอย่างมากมาย อาภรณ์หรือตัวถังของรถรุ่น Z4 แม้จะทำด้วยแผ่นเหล็ก แต่ก็เหมือนมีสิ่งมีชีวิตซุกซ่อน และรอวันเวลาที่จะโลดแล่นออกไป และเพื่อจะให้ได้ความรู้สึกดังที่ว่ามา รถรุ่น Z4 ของ BMW ต้องอาศัยเครื่องจักรพิเศษจำนวนมากในการขึ้นรูปอย่างที่ไม่เคยใช้ในรถรุ่นอื่นใดมาก่อน หากจะอธิบายกันอย่างง่ายๆก็คือ รถรุ่น Z4 นั้นเป็นเสมือนสิ่งมีชีวิตที่มีผิวหนัง หรืออาภรณ์ห่อหุ้มกายเป็นโลหะอันพริ้วไหวนั่นเอง ซึ่งในก่อนจะถือกำเนิดออกมาเป็นรถรุ่น Z4 อย่างในปัจจุบัน รูปทรงที่เกิดขึ้นอาศัยพื้นฐานมาจากผ้าขึงลงบนโครงโลหะมาก่อน ซึ่งก็คือ สิ่งเดียวกับที่ GINA Concept นำเสนอนั่นเอง

GINA Concept ทำไมพึ่งจะมาถึง?

GINA Concept นั้นว่ากันตามจริงก็คือต้นแบบของ Z4 นั่นเอง แต่สิ่งที่ทำให้ใช้เวลากว่า 6 ปีเราจึงจะได้เห็นมันก็คือ ความก้าวหน้าทางวัสดุศาสตร์ที่สามารถทำให้ความคิดนี้เป็นไปได้พึ่งจะเกิดขึ้นนั่นเอง รถรุ่น GINA นั้นไม่มีตัวถังโลหะอย่างที่เราคุ้นเคย แต่กลับใช้ ผ้า Lycra ที่ยืดหยุ่นได้ดี ฉาบเคลือบด้วยโพลียูรีเทนที่กันน้ำมาขึงตึงเป็นผิวหนังของรถ ส่วนรูปทรงเหลี่ยมสันที่ปรากฏอยู่บนตัวรถเกิดขึ้นจากโครงสร้างอลูมิเนียม และกลไกฟ้าผสานกับไฮดรอลิคดันอยู่ใต้ผิวหนังนั่นเอง การประสานกันของโครงสร้างและผิวหนังนี้ทำให้ GINA เป็นรถยนต์ที่มีรูปทรงที่แปรเปลี่ยนได้ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิต

แม้ว่าทาง BMW จะไม่ได้บอกว่า GINA นั้นคือบรรพบุรุษที่พึ่งจะเปิดเผยตัวของ Z4 ก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครปฏิเสธสายตาตัวเองได้ และแม้ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นมากว่า 6 ปีแล้วก็ตาม GINA Concept เองก็ยังเป็นผลงานที่น่าตื่นตา ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดเรื่องของการตอบสนองต่อการใช้งานในแบบที่แนบเนียนและเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง อาทิ การเลิกเปลือกตาขึ้นเปิดเผยให้เห็นดวงตาหรือโคมไฟหน้าที่ดุดุดัน หรือ ดวงไฟท้ายที่แม้มองไม่เห็นจากภายนอกแต่ก็พร้อมจะเรืองสว่างทะลุผิวหนังออกมาอย่างนุ่มนวลงดงาม ยังรวมไปถึงสปอยเลอร์ท้ายที่ดุนและดันภายใต้ผิวฝากระโปรงท้ายให้นูนออกมาอย่างแนบเนียน และในส่วนของห้องโดยสารก็สามารถปรับให้โอบรับกับร่างกายขณะขับขี่ได้ราวกับสวมถุงมือทีเดียว หรือแม้กระทั่งผิวหนังส่วนฝากระโปรงที่แหวกออกเพื่อเปิดเผยห้องเครื่องยนต์ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ตื่นตามาก

การนำเสนอต้นแบบออกมาหลังจากรุ่นโปรดักชั่นขายออกไปนานนมแล้ว นับว่าเป็นเรื่องแปลก แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยีทำให้เราต้องรอชมแนวคิดชั้นยอดนี้กว่า 6 ปี แต่จะว่าไปก็ไม่แปลก เพราะเราเองกว่าจะได้ชม Starwars: The Episode 1 ก็ต้องรอเป็น 10 กว่าปีเลยไม่ใช่หรือครับ?

ไม่มีความคิดเห็น: