วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

E-Klasse Coupe สง่างามในทุกท่วงทำนอง


คงจะไม่เกินเลยไปนักหากผมจะบอกว่านี่คือ รถที่มีสเน่ห์เย้ายวนชวนให้หลงไหลได้ราวกับต้องมนต์ พลิกความรู้สึกเดิมๆที่มีกับรถรุ่นผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ด้วยเส้นสายที่ผสมผสานระหว่างความเฉียบคม เด็ดขาด เข้ากับรูปทรงที่สะโอดสะองแต่ก็แฝงไว้ซึ่งมัดกล้ามขนาดพอเหมาะ ได้มาซึ่งส่วนผสมที่แสนจะลงตัว หากจะเปรียบรถคันนี้เป็นคน นี่ก็คือนิโคล คิดแมน ดีๆนี่เองเพราะเธอคือตัวแทนของสาวสวย เก่งรอบด้าน ใครได้มีโอกาสควงเธอได้แม้สักครั้งก็คงต้องเป็นคนที่น่าอิจฉาเอาซะจริงๆ (ตอนทดลองขับผมหลงคิดว่าตัวเองเป็น ทอม ครูซ อยู่บ่อยๆเหมือนกัน....)

อี คลาส คูเป้ใหม่ นั้นคงไว้ซึ่งรายละเอียดของที่ทำให้รุ่นสปอร์ตแตกต่างจากรุ่นซีดาน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าทรงกว้างพร้อมโลโก้ดาวสามแฉกขนาดใหญ่ และการใช้กระจกไร้กรอบที่เปิดลงได้สุดทุกบาน แต่ก็ได้บอกลารูปทรงโค้งมนกลมกลึงและหันมาเอาดีในแนว เหลี่ยมคมผสมผสานกับความโค้งเว้า ซึ่งหากมองจากด้านบน จะเห็นรูปทรงเหลี่ยมสัน หัวแหลม ท้ายแหลม ทรงลูกธนูได้อย่างชัดเจน หากไล่สายตาต่อไปทางด้านท้ายจะพบโป่งซุ้มล้อที่โค้งมนดูคสาคสิคและดูทะมัดทะแมง ซึ่งทางเบนซ์แจ้งว่าได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์รุ่น เอส 220 “พอนตอน” จากปี 1955 แถมด้วยสมถรรนะค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเพียง 0.24 ถือเป็นรถยนต์โปรดักชั่นที่ลื่นลมที่สุดในโลก

ในส่วนของการออกแบบภายในนั้น ได้มีการใช้แนวเหลี่ยมสันที่คมคายมาเล่นอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเมอร์เซเดส เบนซ์ อย่างไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาแฝงหน้าปัดแบบแยกจอ สไตล์ยุค 70 จากรุ่น W123 ซึ่งดูสปอร์ตและลงตัว รายละเอียดการออกแบบภายในโดยรวมๆจะไม่แตกต่างจากรุ่นซีดานที่ใกล้จะนำมาเปิดตัว แต่ก็จะมีรายละเอียดแตกต่างเล็กๆน้อยๆ อาทิรูปทรงของกระจังช่องแอร์ที่กลับหัวกลับหางกับรุ่นซีดาน ส่วนการควบคุมระบบอิเล็กทรอนิคต่างๆนั้นให้สัมผัสที่แน่นหนามั่นคงบ่งบอกถึงคุณภาพระดับสูง แต่เพราะมีจำนวนปุ่มค่อนข้างมาก ทำให้การใช้งานโดยรวมยังคงต้องใช้เวลาในการเรียนรู้อยู่บ้าง ซึ่งอาจจะไม่เป็นปัญหากับเศรษฐีหนุ่มยุคไอทีนักแต่ สำหรับเสี่ยรุ่นเก๋าก็อาจจะพบว่ามันน่าสับสนไม่น้อย ส่วนการให้แสงในที่มืดก็นับว่า การเล่นแสงแบบอินไดเร็คให้ความรู้สึกผ่อนคลายไฮคลาสดีจริงๆ

นอกจากรถคันนี้จะบ่งบอกถึงความเป็นผู้อันจะกิน (แบบเหลือเฟือ) ในทุกกระเบียดนิ้วแล้ว เมอร์เซเดส เบนซ์ ยังออกแบบให้รถคันนี้ให้ปลอดภัยในระดับ 5 ดาว ไม่เว้นแม้กระทั่งกับคนเดินถนน ด้วยการออกแบบระบบที่เขาเรียกว่า แอคทีพ บอนเน็ต หรือฝากระโปรงที่จะหลีกเลี่ยงการที่ศรีษะของผู้โชคร้ายไม่ให้ฟาดคงไปบนเครื่องแบบจังๆ ช่วยลดอันตรายจาก ตาย จากสมองกระทบกระเทือนแบบเฉียบพลันไปเป็นแค่ สาหัส (ไม่รู้ว่าจะโชคดีหรือโชคร้ายดีเหมือนกัน)

สรุปก็คือ หากเงินไม่ใช่ปัญหา และท่านมองหารถยนต์ที่จะคงความสง่างามเป็นอมตะ ที่สัญญาจะมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟริสท์คลาส นี่แหละครับ คำตอบสุดท้าย

ไม่มีความคิดเห็น: