วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

Minor Change, Major Appeal



อากาศเย็นๆของฤดูหนาวในบ้านเราพอให้หัวใจผมพอจะชุ่มฉ่ำอยู่บ้าง แต่ที่หัวใจผมเต้นแทบผิดจังหวะก็คือ ภาพของรถคันใหม่จากค่ายบีเอ็มดับเบิ้ลยู เพราะงานนี้ ผม อ้วนซ่า ขาซิ่งไม่แน่ใจว่าตาฝาดไปหรือเปล่าตอนเห็นภาพชุดของ Z4 ใหม่ ตอนแรกก็คือว่ามันเป็น ไมเนอร์เชนจ์ เพราะเส้นสายต่างๆยังคงมีเค้าของเดิมอยู่บ้างแต่พอศึกษาในรายละเอียดลงไป โอ้ นี่มันรุ่นใหม่ถอดด้ามเลย เรียกได้ว่า Z4 แบบดั่งเดิมก็ว่าสวยจนต้องเหลียวหลังทุกครั้งแล้ว แต่สำหรับคันนี้นี่มันไปอีกระดับกันแล้ว ใช่แล้วครับผมกำลังจะบอกทุกท่านว่า Z4 ใหม่คันนี้ทำออกมาได้ถึงใจอ้วนซ่ามั่กๆขอรับ

Z4 ใหม่นั้นไม่ได้เป็นแค่ รถที่ถ่ายทอดจิตวิญญานโรสเตอร์ขนานแท้ ที่มีรูปแบบหน้ายาว ขับหลัง ท้ายสั้นที่ตำแหน่งที่นั่งคนขับอยู่ชิดกับตำแหน่งล้อหลัง ที่เป็นรูปทรงที่ดูจะพุ่งถาโถมออกไปสู่ถนนเปิดเบื้องหน้าอย่างฉับพลัน และรวดเร็ว ที่มาในหน้าตาใหม่ที่ปรับปรุง ลบจุดด้อยให้ หล่อ คม เฉียบ ยิ่งกว่าเดิมแล้วเท่านั้น (ที่เรียกว่า โรสเตอร์ขนานแท้นั้น เพราะนี่คือรูปแบบรถโรสเตอร์ที่ยังคงไว้ซึ่งเส้นสายคลาสสิคที่หลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ยี่ห้อเท่านั้นในปัจจุบัน ที่ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสกับอรรถรสการขับขี่แบบสายลมแสงแดดแบบเดียวกับที่นักซิ่งในอดีตคุ้นเคยกัน) แต่มาคราวนี้ Z4 มาพร้อมหลังคาโลหะพับได้ ซึ่งแก้ปัญหาเดิมๆที่เกิดขึ้นกับหลังคาผ้าพับได้แบบเดิมๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียงลม หรือความร้อนให้หมดไป มาคราวนี้หลังคาโลหะพับได้ชุดนี้สวยทั้งตอนเปิดและ ปิด แถมสามารถกางหรือพับได้ภายใน 20 วินาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าเร็วทันใจ จะหล่อแบบรับแดดรับลม หรือเป็นส่วนตัวแบบฮาร์ททอป ก็เพียงอึดใจเท่านั้น แถม Z4 มาพร้อมกระจกข้างถึงสี่บานด้วยกันครับ เรียกได้ว่าโปร่งตาขึ้นเยอะและผลพลอยได้ก็คือทัศนวิสัยที่ดีกว่ารุ่นเดิมกว่า 14 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว ส่วนด้านมิติตัวรถนั้นก็ใหญ่ขึ้นทุกมิติ เพื่อการเข้าออกรถได้ง่ายขึ้น การเดินทางที่สบายขึ้นและห้องสัมภาระที่จุมากกว่าเดิม แต่ทั้งหมดก็มิได้ทำให้มิติการควบคุมที่เป็นสปอร์ตของรถเสียไปแต่อย่างใดด้วยการกระจายน้ำหนัก 50/50 ที่เป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิ้ลยู นั่นเอง

ส่วนเครื่องยนต์ก็แรงไปอีกขั้นหนึ่งด้วยเครื่องยนต์ใหม่สองรุ่นคือ sDrive (เอสไดร์พ)30i ที่มาพร้อมกำลัง 255 แรงม้าและ sDrive 35i ที่มาพร้อมกำลัง 300 แรงม้าโดยเฉพาะรุ่น 35i นั้นมาพร้อมกับเสื้อสูบอลูมินั่ม ระบบหัวฉีดแบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ พร้อมเทอร์โบคู่ (ทำงานตัวละ 3 สูบ) และเกียร์อัตโนมัติแบบคลัชท์คู่แบบ 7 จังหวะ ที่พร้อมจะส่งมันให้พุ่งทะยานออกไปได้อย่างดุดัน ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5 วินาทีเท่านั้น แต่ก็ยังให้ความเรียบลื่นสะดวกสบายยามเดินทาง พร้อมให้ไอเสียและการบริโภคที่ต่ำกว่ารถกำลังสูงทั่วไป

ส่วนคันที่ผมเต๊ะท่าถ่ายอยู่ด้วยนั้นเป็นรุ่นเครื่อง 2.5 ลิตร ที่ขายในชื่อ sDrive23 มีกำลัง 204 แรงม้า แรงไหม? ก็แล้วแต่ประสบการณ์นะครับ สำหรับผม มันยังไม่ค่อยถึงใจ เพราะเมื่อเทียบกับรถเครื่องดีเซล 2 ลิตรของบีเอ็มเอง ผมชอบพละกำลัง อัตราเร่งของดีเซลมากกว่า

สำหรับท่านที่สามารถเป็นเจ้าของรถเปิดประทุนได้แต่เกรงว่าการเปิดประทุนรับสายลมแสงแดด จะทำให้เบาะหนังนุ่มๆของท่านแตกระแหงเพราะรังสีความร้อนล่ะก็ ท่านอุ่นใจได้ เพราะ Z4 นั้นเลือกใช้วัสดุที่มีองค์ประกอบของเม็ดสีที่สะท้อนรังสีได้ ช่วยยืดอายุของวัสดุให้ทนทานนานปีขึ้น แต่สำหรับผิวของท่าน ผมแนะนำครีมกันแดด SPF 50 น่าจะเหมาะ เพราะแดดบ้านเราไม่ใช่เล่นๆนะครับ

ขับแล้วก็เพลินครับ เพราะความสวยของมันทำให้เราได้ฝันกลางแดดบ้างนิดๆครับ

ไม่มีความคิดเห็น: