วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

สงกรานต์เดือด! แล้งจะให้ตูเขียนอะไรฟะ!!!!


สวัสดีวันอาทิตย์พบกับผมอ้วนซ่า แอบซิ่งอย่างเช่นเคย และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ที่แสนโกลาหลที่จะตราตรึงอยู่ในหัวใจของคนไทยตลอดไปและทุกคนหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ร้ายๆอย่างนี้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินอีกต่อไป และสำหรับคนที่รักรถอย่างผมแล้วก็นับได้ว่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นรถยนต์ดีๆหลายๆคันถูกทำลายลงไปด้วยน้ำมือของความขัดแย้ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเอารถยนต์มาใช้เป็นอาวุธเพื่อประหัตประหารชีวิตกัน ผมขอไว้อาลัยให้กับความเสียหายของประเทศไทยในครั้งนี้ด้วยครับ

แต่หลังจากเรื่องร้ายๆแล้วผมเชื่อว่าพวกเราน่าจะได้รับรู้เรื่องราวดีๆกันมากขึ้น อย่างน้อยๆในวงการยานยนต์ที่ตอนนี้ก็ดูเหมือนไม่ค่อยจะมีข่าวดีมากนักก็ยังมีเรื่องราวดีๆให้ได้เห็นเหมือนกัน อย่างน้อยก็คือการถือกำเนิดขึ้นของรถยนต์แห่งอนาคตอย่าง เทสลา โมเดล เอส ( Tesla Model S)

โมเดล เอส นี้ถือเป็นการปฏิวัติแนวคิดอย่างแท้จริง เทสลา โมเดล เอส ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม และด้วยรูปแบบของแบตเตอรี่ชนิดใหม่สามารถชาร์จไฟได้หลากหลายแรงดัน ไม่ว่าจะเป็นไฟ 120, 240, หรือ 480 โวลท์ โดยเฉพาะหากชาร์จกับไฟ 480 โวลท์นั้นก็จะใช้เวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น และเมื่อชาร์จไฟเต็มก็จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง เกือบๆ 500 กิโลเมตร และด้วยระบบแบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ทำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ไฟเต็มได้ในเวลาพอๆกับการเติมน้ำมันเลยทีเดียว และนอกจากนั้น การใช้พลังงานไฟฟ้าทำให้ลดพื้นที่ของเครื่องยนต์ได้อย่างมหาศาล และทำให้มีพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับสัมภาระทั้งด้านฝากระโปรงหน้าและหลัง ทำให้สามารถบรรทุกสัมภาระมากยิ่งกว่ารถแบบเอสยูวีเสียด้วยซ้ำไป โดยทางผู้ผลิตแจ้งว่าโมเดล เอส นี้สามารถจับเอาโทรทัศน์จอแบนขนาด 50 นิ้ว หรือ จักรยานเสือภูเขา ใส่เข้าไปในรถได้สบายๆ

นอกจากนี้เรื่องสมรรถนะก็ยังเหนือกว่ารถพลังน้ำมันทั่วๆไปมาก ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 6 วินาที และความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลไร้การกระตุกผ่านระบบเกียร์ เดินหน้า 1 สปีดเท่านั้น (เพราะมอเตอร์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพและแรงบิดสูงกว่า เครื่องยนต์น้ำมัน ทำให้ไม่ต้องลงทุนไปกับระบบเกียร์หลายสปีดที่นอกจากจะแพง ซับซ้อน และน้ำหนักมาก) และนอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายทางพลังงานที่ต่ำมาก เพียงกิโลเมตรละ 50 สตางค์เท่านั้น ส่วนด้านราคาในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นอยู่ราวๆคันละ 1.7 ล้านบาท ซึ่งก็นับว่าไม่ได้แพงมากมายอะไรเมื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการใช้งานระยะยาว

แต่หากคุณยังคิดว่าราคาค่าตัวของ เทสลา โมเดล เอส ยังแรงไปนิด ก็ขอให้รอต่อไปอีกสักหน่อย เพราะเทสลา มอเตอร์ มีโครงการจะทำรุ่นประหยัดเอาใจคนทำงานอย่างเราๆท่านๆอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้ ดีๆแบบนี้หยอดกระปุกรอได้เลยเพราะอย่างๆน้อยๆ ก็ยังมีฟ้าใสรอเราอยู่หลังวันฝนตกครับ

ไม่มีความคิดเห็น: