วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

จับตาดูช่วงเวลาทองของฟ้าหลังฝน

สุดท้ายก็ได้เห็นทางออกกันไปกับการตัดสินใจของท่านนายกฯขวัญใจคนรุ่นใหม่แม้ว่าอาจจะไม่ถูกใจคนบางกลุ่มที่ต้องการเห็นรัฐใช้ความเด็ดขาด แต่สำหรับอีกหลายๆคนทั้งแดงและไม่แดงการตัดสินใจครั้งนี้ของท่านนายกฯนำมาซึ่งความโล่งอกโล่งใจ และคลายปมจุกเสียดได้ชงัด ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนนิสิตนักศึกษาที่อยู่ในย่านราชประสงค์ และคนค้าคนขายในย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลวง ซึ่งอ้วนซ่าฯอยากจะบอกว่ารอยยิ้มของคนอยากขายและคนอยากซื้อน่าจะกลับมาอีกครั้งในอีกไม่นานนี้แน่นอน
และเมื่อเมฆฝนได้จางหายไป (แต่อาจจะกลับมาได้ใหม่เร็วๆนี้ แต่ขอภาวนาว่าอย่าเลยขอร้องล่ะ) และอารมณ์ในการจับจ่ายได้กลับมาอีกครั้งก็คงเป็นช่วงเวลาที่บริษัทต่างๆก็คงจะต้องกระตุ้นยอดขายที่หดไปในช่วงที่ผ่านมานี้อย่างแน่นอน แม่นแล้วงานนี้ สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้ามา เตรียมตัวพบกับช่วงนาทีทองของปีนี้ได้เลยขอรับ ซึ่งอ้วนซ่าฯเชื่อว่าไม่แต่เฉพาะห้างต่างๆในแถบราชประสงค์เท่านั้นที่ต้องมีการกระตุ้นยอดขายอย่างหนักเพื่อดึงเอาผลกำไรกลับมา ตลาดรถยนต์เองก็ต้องการยาชูกำลังขนานแรง(ให้กับเซลล์)ด้วยเช่นกัน
หลายๆค่ายมีของใหม่เปิดตัวสู่ผู้บริโภคกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนิสสันมาร์ช ที่กวาดยอดจองไปกว่า 5 พันคัน หรือขวัญใจวัยรุ่น มาสด้า 2 ทั้งแบบแฮชท์แบค และซีดานที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า (ก็รถเขาดีจริง) หรือ ค่ายโตโยต้าที่มี แคมรี่ ไฮบริด และ วีออส ไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งเปิดตัวไปพักนึงแล้ว แม้ว่าจะมีข่าวไม่ค่อยงามนักเกี่ยวกับรถไฮบริดจากทางอเมริกาเข้ามาป่วนอยู่บ้างจนทำให้ต้องทำโฆษณาเรียกความเชื่อมั่นออกมาเป็นระลอกๆ แต่ก็ถือว่าผู้บริโภคไทยเมื่อได้ลองลิ้มความเงียบ นิ่มนวลของไฮบริดกันแล้วก็เห็นจะลืมไม่ลงและควักกระเป๋าจ่ายกันเป็นแถวๆ พวกนี้ถือว่ารอดไป เหลือก็แต่ค่าย “ฮอนด้า” ที่แม้จะมีสินค้าใหม่อย่าง รถอเนกประสงค์ ฮอนด้า “ฟรีด” แม้จะทำยอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแต่ก็เพียงแค่ 1,020 คันเท่านั้น นับว่ายังไม่คุ้มค่าโฆษณาเท่าไร ส่วนแจ๊สนั้น แม้ว่าจะวัดกันหมัดต่อหมัดโดยรวมก็ยังเหนือกว่าคู่ต่อสู้ แต่ผู้บริโภคดูจะอิ่มเสียแล้ว เลยหนีไปเล่นรถรุ่นอื่นเสียหมด รถซีดานขนาดกลางอย่าง ซีวิคซึ่งทำยอดได้ดีมาตลอดก็แพ้ “ของเล่น” นานาชนิดที่โตโยต้าอัดลงไปในอัลติส ส่วนรถใหญ่อย่างแอคคอร์ด ก็ต้องหลบให้กับ แคมรี่อย่างไม่มีทางสู้ (แพ้กระทั่งนิสสัน เทียน่า) จนทำให้ยอดขายเดือนมีนาคมของปี 2010 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2009 นั้นฮอนด้ามียอดขาย “ลดลง” ร้อยละ 12 ดูน่าเจ็บใจเมื่อเทียบกับโตโยต้าที่ทำได้ “ดีขึ้น” กว่าร้อยละ 50
จับตาดูให้ดีๆว่าเพื่อที่จะเรียกยอดขายคืน กลยุทธ์ฟ้าหลังฝนของค่ายฮอนด้าจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะงานนี้ยิ่งกว่าไฟท์บังคับแต่หากมองต่างมุม ก็นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาทองของผู้บริโภคเช่นกันขอรับ!

ไม่มีความคิดเห็น: