วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

คอลัมภ์โดนแบน Banned Column ข้อหาพาดพิงเสื้อแดง!


อยากรู้เหมือนกันว่า มันแตะต้องไม่ได้เลยเหรอ.....สรุปว่าแตะไม่ได้จริงๆ ได้ลงแค่กรอบบ่ายเสาร์ ส่วนกรอบเช้าวันอาทิตย์ออกไม่ได้เลย 555 เวร!


กฏจราจรสองมาตรฐาน?
สวัสดีวันอาทิตย์กับอ้วนซ่าเจ้าเก่าขอรับ บอกตามตรงว่าช่วงนี้อ้วนซ่า “เซ็งจิต”เอามากๆ คงจะพอเดากันได้ว่าเป็นเรื่องอะไร เพราะดูจะเป็นโรคเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ สาเหตุก็มิใช่อะไรนอกไปจากสถานการณ์บ้านเมืองไทยที่ดูจะมืดมนนนทกาลและยากที่จะมองเห็นอนาคตที่สดใสกลับคืนมาได้ในเร็ววัน ทำให้รอยยิ้มสยามนั้นดูจะเจื่อนๆไป กลายเป็นสยามเมืองยิ้ม (ยาก) ไปเสียแล้ว อ้วนซ่านั้นมิใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมือง และก็ไม่ได้มีวงในพรายกระซิบจึงต้องตกอยู่ภาวะสับสนกับอนาคตบ้านเมืองไปไม่ต่างจากท่านผู้อ่าน ต้นฉบับที่อ่านอยู่นี้เขียนขึ้นในวันจันทร์ที่ 12 เมษายน ก่อนที่กองบ.ก.ยานยนต์เขาจะหยุดกลับบ้านต่างจังหวัดกัน อ้วนซ่าไม่รู้ว่าตามต่างจังหวัดนั้นการเล่นสาดน้ำ รดน้ำดำหัวขอพรจากผู้เฒ่าผู้แก่ สนุกสนานกับตามประเพณีจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับคนกรุงเทพโดยกำเนิดอย่างอ้วนซ่าแล้ววี่แววของการเล่นสาดน้ำก็ดูหงอยเหมือนเป็ดป่วยไปเป็นแถบๆ จะเห็นบ้างก็พี่รถเมล์เจ้าเก่าที่โดนแป้งขาวโพลนวิ่งมาเป็นระยะๆ ก็ได้แต่หวังว่า การได้สาดน้ำเย็นๆให้แก่กันน่าจะได้ช่วยลดความเครียดให้ท่านผู้อ่านที่รักได้บ้างไม่มากก็น้อยในเทศกาลที่ผ่านมา (แต่ยังมาไม่ถึงตอนที่อ้วนซ่าเขียนอยู่นี้)

เห็นเสื้อแดงเขาเรียกร้องเรื่องสองมาตรฐานกัน ผมก็ไม่ค่อยเขาใจว่าเขาเรียกร้องให้กำจัดหรือเรียกร้องให้มีกันแน่เพราะดูเหมือนกลุ่มคนเสื้อแดงเขาก็ทำเรื่องสองมาตรฐานกันได้หน้าตาเฉยเหมือนกัน จากแต่เดิมไอ้พฤติกรรมสองมาตรฐานกร่างถนนนั้นดูจะสงวนไว้สำหรับ “ผู้มีอิทธิพล” ประเภท ป้ายทะเบียน “ตอง”, มีตราโล่ห์ปะกระจังหน้า, วางหมวกตำรวจตรงกระจกหลัง ฯลฯ แต่ตอนนี้พฤติกรรมกร่างๆเหล่านั้นทำได้สะดวกขึ้น เพียงแค่ผูกริบบิ้นแดงหรือโบกธงแดงก็สามารถทำได้เสมอกัน ลงทุนน้อยกว่ากันเยอะเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง คุณก็จะทำเรื่องห้าวๆได้อย่างสะดวกโยธินไม่ว่าจะเป็นการบีบแตรกันสนั่นหวั่นไหวไปตามท้องถนน, ฝ่าไฟแดงกันเป็นขบวน (หรือชาวเสื้อแดงจะคิดว่า สัญญานไฟแดงนั้นแปลว่า ไฟให้คนเสื้อแดงไปได้? อันนั้นก็สุดจะคาดเดาได้),การขับย้อนศร และร้ายที่สุดก็คือขับสามล้อและจักรยานยนต์ขึ้นทางด่วน คิดๆดูอ้วนซ่าก็ว่าไม่เลวเหมือนกันเพราะวันไหนอยากจะทำผิดกฏจราจรสนองสันดานดิบของตัวเองบ้างก็จะเอาผ้าแดงมาโบกแล้วขับฝ่าไปเลยบ้างอยากจะรู้ว่าท่านผู้พิทักษ์สันติราษฤร์ท่านใดจะมาจับบ้าง ถ้ามีท่านใดมาจับจริงๆจักเป็นพระคุณยิ่ง เพราะจะได้เห็นว่าบ้านเมืองยังมีขื่อมีแปกันอยู่บ้าง เพราะเท่าที่เห็นตอนนี้ดูจะเหมือนกับ “อำนวยความสะดวก” ให้กับอภิสิทธิ์ชนคนเสื้อแดงอยู่แต่ฝ่ายเดียว

จะให้เดาว่าวันอาทิตย์ที่ท่านได้อ่านอยู่นี้ประเทศเราจะออกหัวหรือก้อยนั้นก็ยากยิ่งจะเดา เอาเป็นว่าอ้วนซ่าเชื่อว่าหาก กฏเกณฑ์ กฏหมายใช้ไม่ได้ ก็คงเหลือแต่ “กฏแห่งกรรม”เท่านั้นกระมังที่ “อาจ” จะพอพึ่งพาได้ในการที่จะแยกความเลวร้ายออกจากความดีงามในสังคมได้ แต่ถ้ากฏแห่งกรรมยังใช้ไม่ได้ ก็ตัวใครตัวมันแล้วกันขอรับ!

ไม่มีความคิดเห็น: