วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Lexus RX450h นวัตกรรมอนาคต



เมื่อได้รถเล็กซัสรุ่น อาร์เอ็กซ์ 450 เอช ( Lexus RX 450h) ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของเอสยูวีระดับพรีเมี่ยม ของค่ายเล็กซัส (หรือที่บ้านเราคุ้นเคยกันดีในชื่อของ โตโยต้า แฮริเออร์ ในอดีต) เท่าที่ผ่านมารถในตระกูลนี้เป็นรถที่เศรษฐีไทยคุ้นเคย ด้วยจุดเด่นที่มีเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดหลายๆประการ อาทิ หน้าตาที่เฉียบคม ผู้ชายขับได้ผู้หญิงขับดี ความนุ่มนวลและเรียบลื่นของการขับขี่ที่เหนือระดับ แถมอัดแน่นไปด้วยลูกเล่นไฮเทคล้ำสมัย รวมไปถึงความทนทานตามแบบฉบับของโตโยต้า ทำให้ชื่อของ ตระกูลอาร์เอ็กซ์นั้นเป็นตัวเลือกต้นๆของเหล่าผู้มีอันจะกินในบ้านเราเสมอมา

สำหรับเจนเนอเรชั่นที่ 3 นี้ก็ยังไม่ทิ้งสูตรสำเร็จของความสำเร็จคือ “สวย สบาย และ สมาร์ท” แถมในรุ่น 450 เอช นี้ยังเพิ่มคำว่า “สะอาด” เข้าไปอีกด้วย ความสะอาดนี้ได้มาจากการนำเอาระบบไฮบริดไฟฟ้ามาพ่วงเข้ากับเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเบนซิน วี6 ขนาด 3.5 ลิตร (แนวคิดเดียวกับระบบที่โตโยต้า แคมรี่ ไฮบริด รถยอดนิยมคันใหม่ของผู้บริหารเมืองไทยใช้ ที่ขายดีเทน้ำเทท่า ทำเอาคู่แข่งเจ้าอื่นนั่งมองตาละห้อยทีเดียว) ที่นอกจากจะลดมลภาวะทั้งเสียง และอากาศช่วยให้โลกของเราไม่เลวร้ายลงไปกว่านี้ ยังได้มาซึ่งแรงบิดที่ดีเยี่ยมที่รอบต่ำจากการทำงานควบคู่กันของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ ผสานกับระบบเกียร์ ซีวีที ทำให้สมถรรนะการขับขี่ในเมืองนั้นนุ่มนวลและต่อเนื่องราวกับว่ารถคันนี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 8 สูบเลยทีเดียว

ด้านรูปโฉม ภายนอก รถรุ่นใหม่นี้ฉีกแนวจาก 2 รุ่นเดิมเป็นอย่างมาก รูปร่างคมเฉียบแบบเดิมกลายเป็นเพียงอดีต และสิ่งที่ได้มาใหม่ก็คือรูปทรงที่ประกอบไปด้วยพื้นผิวตัวถังที่ซับซ้อน ดูราวกับนักออกแบบและโมเดลเลอร์คู่ใจต่างพยายามถ่ายทอดปรัชญาการออกแบบที่จงใจจะให้ดูแล้ว “ลึกซึ้ง” แต่สำหรับสายตาของผมแล้วแม้จะดูแล้ว “พรีเมี่ยม” พอตัว และดู “ซับซ้อน” สมกับเป็นรถยนต์ระดับหรู แต่หากวิจารณ์แบบตรงไปตรงมา ผมคิดว่ารถคันนี้ขาดความ “แมน” ไปพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ เอสยูวีระดับพรีเมี่ยมจากค่ายยุโรป โดยเฉพาะส่วนของกระจังหน้าและพื้นผิวที่ไม่ค่อยกระชับ ดูเป็น “สตรีเพศ” มากกว่ารุ่นก่อนๆที่เป็น “บุรุษเพศ” ของแบบนี้ก็แล้วแต่จะมองครับ แต่ที่แน่ๆดูแล้วการเอารถรุ่นนี้ไปลุย คงจะไม่เหมาะแน่ๆ แต่ถ้าเอาไว้ขับไปรับส่งลูกหรือขับไปช้อปปิ้ง รถรุ่นนี้ดูจะลงตัวกับกิจกรรม “สบายๆ” มากกว่า

ส่วนของการออกแบบภายใน ผู้ที่คุ้นเคยกับรถ อาร์เอ็กซ์ รุ่นก่อนๆอาจจะแปลกใจที่พบว่า องค์ประกอบเดิมๆของหน้าจอที่หล่อเหลาเอาการนั้นถูกแทนที่ด้วยเส้นโค้งฉวัดเฉวียน ซึ่งองค์ประกอบของรายละเอียดทางการออกแบบ และการเลือกผสมผสานวัสดุดูขัดๆตา เชยๆ ไม่ล้ำยุคอย่างที่อยากจะเห็น แต่ขึ้นชื่อว่า เล็กซัสแล้ว แม้จะดูไม่ล้ำยุค แต่เรื่องของลูกเล่นก็มีมาให้เล่นเพียบ แต่ที่ถูกใจเอามากๆก็เห็นจะเป็นกระจกมองหลังที่ผสานกล้องถอยหลังในตัว ช่วยให้ไม่ต้องกวาดสายตาขึ้นๆลงๆระหว่างจอภาพ กับกระจกอีกต่อไป และระบบระบายความร้อนที่เบาะหน้าซึ่งสบายหลังและลดการเหงื่อออกเอามากๆ แต่ที่น่าตำหนิก็เห็นจะเป็นเสียงก้อกๆแก้กๆจากส่วนปิดห้องสัมภาระที่หากเจอถนนที่ไม่เรียบจะส่งเสียงดังออกมาจนน่ารำคาญ ไม่ทราบว่าเป็นเฉพาะคันที่เราทดสอบหรือไม่ แต่หากไม่นับเรื่องนี้ ส่วนสัมภาระก็นับได้ว่ากว้างขวางและใช้งานได้ดี

ความแตกต่างระหว่างรุ่นธรรมดาอย่างรุ่น อาร์เอ็กซ์ 350 กับรุ่นไฮบริด อาร์เอ็กซ์ 450 เอช นั้นมีไม่มากนัก ที่เห็นได้ชัดๆก็คงจะเป็นล้อขนาด 19 นิ้ว ในขณะที่รุ่น 350 นั้นใช้ล้อขนาดเล็กกว่าคือ 18 นิ้ว และรายละเอียดต่างๆที่รุ่น 450 เอช นั้นเลือกที่จะใช้สีของชิ้นส่วนโครมเมี่ยมที่ติดไปทางสีน้ำเงินมากกว่า อาทิ ดวงโคมไฟหน้า และไฟท้าย ส่วนด้านภายในนั้นส่วนที่แตกต่างก็คือรุ่น 450 เอช นั้นไม่มีมาตรวัดรอบ แต่จะมีมาตรแสดงการทำงานของระบบไฮบริดเข้ามาแทนและจะมีไฟสีน้ำเงินเข้ามาเป็นแบ็คกราวน์เสริมบริเวณหน้าปัด

สรุปภาพรวมทางการออกแบบก็คือ เล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 450 เอช คือ เอสยูวีระดับ พรีเมี่ยม ที่เน้นหนักที่การใช้งานในเมือง และสะท้อนภาพของชีวิตที่สะดวกสบาย แถมด้วยความประหยัดราวกับใช้รถยนต์ขนาดเครื่องยนต์เพียง 4 สูบ 2.4 ลิตร แต่สมรรถนะเหมือนเครื่องยนต์ วี 8 ขนาด 4 ลิตร ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าส่วนใหญ่ได้ตรงประเด็นทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น: