The Collection of Car Articles from Sunday issue of Dailynews Newspaper by Patrakit Komolkiti ( also known as "อ้วนซ่า แอบซิ่ง"
วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
RUF RT12S รถสำหรับแฟนพันธ์แท้เท่านั้น
“Porsche ของพี่คันนี้สวยจัง”... “เอ้อ คันนี้ไม่ใช่ Porsche ธรรมดาครับ มันคือ รูฟ อาร์ที12 เอส (RUF RT12S)”... “แล้วมันต่างกับ Porsche ธรรมดายังไงคะเนี่ย?” นี่ก็คงจะเป็นคำถามที่ผู้ที่เป็นเจ้าของรถคันนี้คงจะต้องได้รับและต้องไขข้อข้องใจให้กับคนรอบข้างอยู่เสมอๆ ว่าที่ไม่ใช่พอร์ช “ธรรมดา” และที่จ่ายแพงกว่าไปนั้น จ่ายไปให้กับอะไรบ้าง? ใช่ครับเพราะหากไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ชมรมผู้รัก “กบหลังค่อม” ก็อาจจะแยกไม่ออกว่า นี่ไม่ใช่เจ้ากบหลังค่อมสายพันธ์เยอรมันแบบ “ดาดๆ” ที่เห็นกันทั่วไป และด้วยสมรรถนะที่ดุดัน เกรี้ยวกราด มันไม่เหมาะกับผู้ที่ “เริ่มเล่น” แต่เป็นของเล่นชั้นยอดสำหรับผู้ที่ “มือถึง” แล้วเท่านั้น และเหมาะที่จะเป็นเพชรยอดมงกุฏชั้นเยี่ยมในคอลเล็กชั่นของคอพอร์ชพันธ์แท้มากกว่า
ด้วยหน้าตาชนิดต้องเป็นแฟนพันธ์แท้จึงจะแยกออก และด้วยราคาระดับซุปเปอร์คาร์ ที่เทียบกันแล้วตัวเลือกอื่นๆดูดึงดูดสายตาคนรอบข้างมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์รารี่ 430 หรือ แลมบอร์กีนี่ การ์ญาโด (Ferrari 430 & Lamborghini Gallardo) จากการสังเกตุเวลาขับรูฟไปในที่ต่างๆดูจะไม่ต่อยอยู่ในสายตาชาวบ้านเท่าไรนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคันที่เราทำการทดสอบนั้นเป็นสีดำยิ่งทำให้รู้สึกว่า เหมาะกับคนที่ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาเป็นอย่างยิ่ง
ภายนอกนั้นจุดที่แยก รูฟ ออกจากพอร์ชเทอร์โบธรรมดาได้ชัดเจนมีด้วยกัน 3 จุดคือ 1. ช่องดูดอากาศเข้าสู่อินเตอร์คูลเลอร์ที่ใหญ่และอยู่เหนือซุ้มล้อหลังช่วยสร้างแรงกดทางอากาศพลศาสตร์ได้เหนือกว่าแบบมาตรฐาน 2. สปอยเลอร์ท้าย 2 ชั้นแบบของรูฟเอง 3. ล้อแม๊ก 5 ก้านลายเอกลักษณ์ของรูฟ ที่หล่อและเนี้ยบลงตัว ส่วนกันชนหน้าและหลังนั้นแม้ว่าจะดูดีเอามากๆแต่หากไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ก็อาจจะดูไม่ออกว่าต่างกับรุ่นธรรมดาตรงไหนได้เหมือนกัน
ภายในนั้นการใส่ในรายละเอียดถือเป็นจุดเด่นหนึ่งที่ทางรูฟทำได้ดี โดยรูฟได้เลือกวัสดุที่บ่งบอกถึงความแรงและความหรูหรามาผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างสง่างามน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นหนังลายคาร์บอนสาน, หนังกลับ (อัลคันทารา), และตกแต่งทริมต่างๆด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แท้ รวมไปถึงหน้าปัดพร้อมโลโก้ของรูฟเอง ที่ระบุความเร็วไว้ถึง 370 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนด้านที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้านั้น เป็นบัคเก็ตซีท (Bucket Seat)แบบปรับเอนไม่ได้ในสไตล์รถแข่ง (แต่ก็ไม่เมื่อยล้าแต่ประการใด) ที่ให้ความกระชับ ไม่หวั่นแรงเหวี่ยงขณะเข้าโค้ง และส่งผ่านความรู้สึกของตัวรถมาสู่ผู้ขับขี่ได้อย่าง "เต็มๆ" ได้ว่า พร้อมซิ่ง! ส่วนที่นั่งด้านหลังนั้นจะรันทดเล็กน้อย เพราะนอกจากจะเข้ายากเนื่องจากเบาะหน้าที่พับไม่ได้แล้ว ยังจะต้องเจอกับ “ค้ำตัวถัง” ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon fiber)ที่ทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถัง ขวางทางเข้าที่นั่งหลัง จนเผลอรู้สึกไปว่า หากมีใครต้องเข้าไปนั่งจริงๆคงจะรู้สึกเหมือนนั่งรถไฟเหาะยังไงยังงั้น เพราะต้องคอยเกาะคานค้ำตัวถังไปด้วยตลอดมิเช่นนั้นอาจต้องถึงวาระเปลี่ยนฟันหน้ายกแผงก่อนกำหนดได้หากคนขับต้องเบรคกระทันหัน ก็ภาวนาว่าอย่าต้องมีใครไปนั่งด้านหลังเลย
สรุปว่าในด้านรูปโฉมและการออกแบบนั้น คนที่ชอบรถ สวย ห้าว (ดุดันสุดๆ) แต่ไม่อยากจะตกเป็นเป้าสายตา คันนี้แหละใช่เลย!
ป้ายกำกับ:
Ferrari,
Lamborghini,
Porsche,
Speed,
Sport cars,
Super cars
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น